วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

นิทานเรื่อง เต่ากับงู

ในกาลครั้งหนึ่งหลายร้อยปีผ่านมาแล้ว มีเต่าและงูอาศัยอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำสายหนึ่ง
ทั้งเต่าและงูต่างก็เป็นศัตรูคู่แค้นกันเนื่องจากต่างก็แย่งกันเป็นใหญ่ ต้องการจะเป็นราชา
แห่งลุ่มน้ำนี้

งูพยายามอยู่เสมอที่จะฉกเต่าให้ตาย แต่เต่าก็จะรีบหดหัว หดขาเข้ากระดองไปทุกครั้ง
งูจึงได้แต่ฉกกัดกระดองที่แข็งซึ่งไม่ได้สร้างความเจ็บปวดอะไรให้แก่เต่าเลย เต่าจึง
หัวเราะเสียงดัง ฮ่าๆๆ แล้วกล่าวว่า

"เห็นไหม ไม่มีใครทำอันตรายข้าได้ ข้าเป็นราชาแห่งลุ่มน้ำนี้ ฮ่าๆๆ"

งูโกรธมากจึงถามขึ้นว่า "ท่านทำอย่างไรจึงได้แข็งแรงอย่างนี้"

เต่าตอบว่า "ข้าแข็งแรง เพื่อนๆของข้าก็แข็งแรง ทั้งนี้เพราะพวกเราต้องตัดศีรษะของพวกเรา
ในเวลากลางคืนทุกวัน"

"เอ๊ะ น่าสนใจดีนี่ ถ้าข้าจะชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยท่านจะแสดงการตัดศีรษะให้พวกข้าดูด้วยได้ไหม"

"อ๋อ ได้ซิ" เต่าตอบตกลง

ดังนั้น ทั้งงูและเต่าต่างก็ชวนเพื่อนฝูงและครอบครัวมากันอย่างมากมาย
พวกเต่าจะอยู่ที่ฝั่งด้านหนึ่งของแม่น้ำ ส่วนงูนั้นคอยเฝ้าดูอยู่อีกฝั่งหนึ่ง

เต่าตัวแรกจะถือท่อนไม้แข็งไว้ และแสดงท่าเหมือนกำลังจะ
ตัดศีรษะเต่าอีกตัว ส่วนเต่าตัวอื่นๆก็ทำตาม แต่พวกเต่าไม่ได้
ตัดศีรษะจริงๆ เพียงแต่พวกมันหดศีรษะเข้าไปในกระดองเท่านั้น

พวกงูทั้งหลายหลงเชื่อเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีและน่าสนใจ ดังนั้นในตอนสายๆ
ของวันรุ่งขึ้น มันจึงเดินทางมาหาเต่าแล้วพูดว่า

"พวกข้าต้องการตัดศีรษะทุกๆคืน จะได้แข็งแรงอย่างพวกท่าน แต่พวกเราไม่มีมือ ไม่มีเท้า
จึงอยากให้พวกท่านช่วย"

"อ๋อ ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง" เต่ารีบอาสาทันทีพร้อมยิ้มอยู่ในใจ

พอตกกลางคืน เต่าทุกๆตัวต่างก็ถือท่อนไม้แข็งไว้ และใช้ท่อนไม้นี้
ตัดศีรษะของงูทุกๆตัว แต่งูไม่มีกระดองที่จะหดศีรษะไว้ข้างในได้
ดังนั้นงูจึงถูกเต่าใช้ท่อนไม้แข็งตีศีรษะจนตายทุกตัว

เมื่อพวกงูตายหมดแล้ว พวกเต่าก็ได้เป็นใหญ่
เต่าตัวที่เป็นเจ้าของความคิดก็กลายเป็นราชา
แห่งลุ่มน้ำนี้อย่างไม่มีคู่แข่งตลอดไป


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด"

นิทานเรื่อง ลูกเป็ดกับพรวิเศษ


ลูกเป็ดกับพรวิเศษ (นิทานสัตว์โลก)
เรื่อง นำบุญ นามเป็นบุญ
ภาพ เบ็ญจมาศ คำบุญมี

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเป็ดน้อยตัวหนึ่ง เป็นลูกเป็ดที่มีขนสีขะมุกขะมอมแลดูไม่น่ารัก เจ้าเป็ดน้อยไม่ชอบสีสันของตัวเองเลย มันอยากจะเป้นลูกเป็ดที่ดูงามสง่ามากกว่าเป็ดตัวไหนๆ อยู่มาวันหนึ่งมีนางฟ้าตัวจิ๋วถูกสายลมพัดปลิวมาตกที่กลางบึงบ้านของเป็ดน้อย เมื่อลูกเป็ดเห็นนางฟ้ากำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก มันจึงรีบว่ายน้ำเข้าไปช่วยนางฟ้าตัวจิ๋วทันที

เมื่อนางฟ้าตัวจิ๋วรอดพ้นจากอันตราย เธอจึงนึกอยากขอบคุณเป็ดน้อยที่มีน้ำใจให้ความช่วยเหลือ นางฟ้ามอบพรวิเศษ 7 ประการให้เจ้าเป็ดเป็นของขวัญ ซึ่งเป็ดน้อยเองก็มีความสุขมากที่มันได้รับโอกาสดีๆ เช่นนี้

แน่นอน สิ่งที่ลูกเป็ดปรารถนาก็คือการมีขนที่งดงามกว่าเป็ดตัวอื่นๆ ดังนั้น เป็ดน้อยจึงอธิษฐานขอให้ขนของมันกลายเป็นสีขาวที่ดูแวววาวราวไข่มุก

เมื่อสิ้นคำอธิษฐาน ลูกเป็ดก็กลายสภาพเป็นเป็ดขาวตัวน้อยที่ดูน่ารักขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เจ้าเป็ดมองเงาของตัวเองในน้ำด้วยความภาคภูมิใจ มันมีความสุขเหลือเกินที่ความฝันของมันเป็นจริงขึ้นมาได้

ในขณะนั้นเอง เจ้าลูกเป็ดนึกสนุกคิดอยากจะมีลวดลายเฉพาะตัวที่พิเศษมากขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้ เป็ดน้อยจึงใช้พรวิเศษที่เหลือลองแต่งแต้มลวดลายให้ตัวเองโดดเด่นมากขึ้น


ลูกเป็ดใช้พรข้อที่สอง เนรมิตให้มันมีจุดสีดำกระจายอยู่ตามตัวคล้ายกับสุนัขดัลเมเชี่ยน แต่เมื่อแปลงกายเสร็จ มันก็กลับไม่ชอบใจจุดสีดำเหล่านั้นนัก "จุดสีดำดูสกปรกจังเลย ถ้าเป็นสีที่ดูอ่อนหวานก็น่าจะดีกว่านี้อีกเยอะ" เจ้าเป็ดใช้พรข้อที่สาม เนรมิตจุดสีดำให้กลายเป็นลายดอกไม้แสนสวย แม้ลายดอกไม้จะน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่สำหรับเจ้าเป็ดน้อยตัวผู้ มันก็ดู ออกจะหวานแหววเกินไปสักหน่อย

"แบบนี้คงต้องโดนล่อแน่ๆ เปลี่ยนลายที่ดูเท่ๆ ดีกว่า" เป็ดน้อยใช้พรข้อที่สี่ เนรมิตตัวเองให้มีขนสีเหลืองสลับกับลายจุดสีน้ำตาลคล้ายกับผิวของยีราฟ แต่ทันทีที่แปลงกายเสร็จ เป็ดน้อยกลับรู้สึกว่ามันดูแย่มากกว่าเดิมเสียอีก "ลวดลายของสัตว์สี่ขาคงไม่เข้ากับเราสักเท่าไหร่ ลองใช้ลายของพวกเดียวกันบ้างดีกว่า เจ้าเป็ดใช้พรข้อที่ห้าเนรมิต ให้ตัวเองมีขนสีเขียวแซมด้วยลวดลายคล้ายกับหางนกยูงแสนสวน แม้สีสัของหางนกยูงจะงดงามยิเงนัก แต่มันกลับดูไม่เข้าท่าเมื่ออยู่บนตัวของเจ้าเป็ดน้อย

"สีแบบนี้ดูแก่จังเลข เปลี่ยนเป็นสีที่ดูสดใสอีกหน่อยดีกว่า" เป็ดน้อยใช้พรข้อที่หก เนรมิตให้ตัวเองกลายเป็นเป็ดน้อยเจ็ดสีเลียนแบบสีของรุ้งกินน้ำ ลูกเป็ดสายรุ้งดูสวยสะดุดตาชนิดที่หาเป็ดตัวใดเทียบเทียมได้ยาก ซึ่งเจ้าเป็ดน้อยเองก็ชื่นชอบสีขนและลวดลายของมันในตอนนี้มาที่สุด


ในขณะที่ลูกเป็ดกำลังชื่นชมกับขนสีรุ้งของตัวนั้น จู่ ๆ เจ้าเป็ดน้อยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้คนและฝูงสุนัขวิ่งตรงมายังบึงซึ่งเป็นบ้านของมันเพื่อที่จะจับลูกเป็ดแสนสวยเอาไว้ในครอบครองให้จงได้

ลูกเป็ดตกใจมากเมื่อเห็นปืนยาวและเขี้ยวขาวๆ ที่ดาหน้ากันเข้ามา มันจึงรีบดำผุดดำว่ายเพื่อหาที่หลบภัยอย่างไม่คิดชีวิต อนิจจา! แม้เป็ดน้อยจะพยายามหาที่ซ่อนตัวตามดงอ้อกอหญ้าสักเท่าไรแต่ด้วยสีสันที่แสนสดใสของมันก็ทำให้การซ่อนตัวนั้นไม่อาจจะเป็นไปได้

ในที่สุด เจ้าเป็ดน้อยก็ค้นพบคุณค่าของขนขะมุกขะมอมที่มันเคย รังเกียจมันตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายด้วยการใช้พรข้อที่เจ็ด เนรมิตให้ตัวเองกลับกลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ดังเดิม แล้วรีบว่ายน้ำเข้าไปซ่อนตัวในกอกกที่รกทึบ เพร้อมกับซุ่มตัวพรางตนให้กลมกลืนกับดินเลนแถวๆ นั้น โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเจ้าลูกเป็ดซึ่งกำลังกลัวจนตัวสั่น และเมื่อผู้รุกรานทั้งหลายจากไป เจ้าเป็ดน้อยก็ค่อยๆ ออกจากที่ซ่อนของมันอย่างระแวดระวังเป็นที่สุด และแล้ว...ลูกเป็ดตัวน้อยก็อยู่รอดปลอดภัยด้วยขนที่แสนขะมุกขะมอมของมันนั้นเอง

พานักเรียนทัศนศึกษานอกสถานชมเรือจักรี